ทัชมาฮาล อนุสรณ์แห่งความรัก......หรือความตาย? - Mixmaya.Com
  • Home
  • Knowledge
  • ทัชมาฮาล อนุสรณ์แห่งความรัก......หรือความตาย?
ทัชมาฮาล อนุสรณ์แห่งความรัก......หรือความตาย?

ทัชมาฮาล อนุสรณ์แห่งความรัก......หรือความตาย?

ทัชมาฮาล (Taj Mahal)      

     สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่และสวยที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์อินเดียผู้ที่มีความรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ จักรพรรดิชาห์ ชหาน กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โมกุล (Mughal Empire India) ที่ปกครองอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 16 จนถึงช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ผู้ที่มีความรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ "มุมตัช มาฮาล"

     ทัชมาฮาลได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน  การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1632 – 1654) ทัชมาฮาลตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ประเทศอินเดีย มีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ส่วนหัวที่เราเห็นของทัชมาฮาลมีลักษณะโดม เรียกว่า โอเนียนโดม ด้านหน้าของอาคารมีสวน พร้อมน้ำพุและสระหินอ่อนที่มุมหนึ่ง โครงสร้างทั้งหมดสะท้อนออกมาในน้ำอย่างสมมาตร ส่วนประกอบที่โดดเด่นของทัชมาฮาลของอินเดียคือโดมหินอ่อนสีขาว ผนังทำจากหินอ่อน โปร่งแสงขัดมันด้วยองค์ประกอบของอัญมณีและอัญมณี (ไข่มุก, แซฟไฟร์, เทอร์ควอยซ์, อาเกต, มาลาฮีท, คอร์เชี่ยนและอื่น ๆ)

ประวัติและเหตุที่สร้างทัชมาฮาล

การสร้างทัชมาฮาลนั้นเชื่อมโยงกับตำนานแห่งความรักของ จักรพรรดิชาห์ ชหาน และ พระมเหสี ของพระองค์ พระเจ้าชาห์ ชหาน ได้พบกับ อรชุมันท์ พานุ เพคุม บุตรสาวของรัฐมนตรี เมื่ออายุ 14 พรรษา และหลงรักนางตั้งแต่แรกเจอ ต่อมาในอีก 5 ปี พระองค์และอรชุมันท์ พานุ เพคุม ก็ได้อภิเษกสมรสกันในปี พ.ศ. 2155 นับตั้งแต่นั้นมาทั้ง 2 พระองค์ ก็ไม่เคยอยู่ห่างกันอีกเลย ทรงเรียกพระมเหสีของพระองค์ ว่า มุมตัซ มาฮาล "อัญมณีแห่งราชวัง" พระมเหสีติดตามพระองค์แม้แต่ในสนามรบ แนะนำพระองค์ในเรื่องราชการของประเทศ คอยให้คำปรึกษาและให้กำลังใจ อีกทั้งยังมีความเมตตาช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากเสมอ ทั้งหมดนั้นยิ่งทำให้กษัตริย์ชาห์ ชหาน รักพระมเหสีมากขึ้นไปอีก 

แต่เมื่อครองคู่กันมาเป็นเวลา 18 ปี มุมตัช มาฮาลก็ได้ให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 แต่หลังจากให้ กำเนิดพระธิดาพระนางตกเลือดมากอยู่ได้เพียงไม่นาน พระนางก็สิ้นพระชนม์ในอ้อมกอดของพระเจ้าชาห์ ชหาน ซึ่งการสิ้นพระชนม์นี้นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจแก่พระเจ้าชาห์ ชหานอย่างมาก พระองค์ทรงหมกมุ่นอยู่ในความทุกข์เศร้าโศกเสียใจตลอดเวลา ไม่ทรงยิ้ม ไม่ทรงหัวเราะใด ๆ ปล่อยพระวรกายจนผมที่ดำกลายเป็นสีขาวทั้งศีรษะ ในทุกวันพระองค์จะทรงนุ่งขาวห่มขาว ไปนั่งรำพันถึงพระมเหสีของพระองค์ข้างหลุมศพอย่างกับคนเสียสติ

ด้วยความเศร้าโศกอย่างหาที่สุดไม่ได้ พระองค์จึงทรงสร้างอนุสรณ์แห่งความรักของพระองค์ กับพระมเหสี โดยทรงเลือกทำเลที่ดีที่สุดบริเวณริมโค้งแม่น้ำยมุนาเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์แห่งรักนี้ และพระองค์ก็ทรงทุ่มเทเวลาทั้งหมดในการวางแผน เขียนแปลนก่อสร้างด้วยพระองค์เอง และก็ได้ทรงจ้างสถาปนิกและช่างชาวอาหรับและเปอร์เซียที่มีฝีมือมากมายเพื่อระดมสติปัญญาและกำลัง เพื่อการก่อสร้างอนุสรณ์แห่งนี้ให้สำเร็จ การสร้างครั้งนี้ใช้แรงงานผู้คนมากมายกว่า 20,000 คน ราชสมบัติส่วนใหญ่ที่มี ได้สูญเสียไปกับการสร้างอนุสรณ์แห่งความรักแห่งนี้ กินเวลานานถึง 22 ปี อนุสรณ์แห่งความรักอันยิ่งใหญ่ก็เสร็จสมบูรณ์อย่างงดงาม และพระองค์ก็ทรงให้ชื่อว่า "ทัชมาฮาล" (Taj Mahal)

หลายปีต่อมาหลังจากสร้างทัชมาฮาลเสร็จสิ้นได้เกิดศึกชิงราชบัลลังก์ระหว่างพระโอรสของพระองค์เอง ในระหว่างนั้นเจ้าชายโอรังเซบ (Aurangzeb) พระโอรสของพระองค์ได้จับพระเจ้าชาห์ ชหาน ไปกักขังอยู่ที่ป้อมเมืองอัคราซึ่งอยูฝั่งตรงข้ามแม่น้ำกับทัชมาฮาล ด้วยข้อกล่าวหาพระองค์เสียสติ และขึ้นครองบัลลังก์แทน ระหว่างที่ถูกกักขังพระองค์ทรงมองทัชมาฮาลและรำพันถึงพระมเหสีของพระองค์ตลอด 8 ปี กระทั่งในปี ค.ศ.1666 ในวันสุดท้ายก่อนสวรรคตพระเจ้าชาห์ ชหาน ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมอง เศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาลหลังจากนั้นพระโอรสก็ได้นำพระศพของพระองค์มาฝังไว้เคียงข้างพระมเหสีที่พระองค์รักใคร่มิเคยลืมเลือน

มุมมองจากป้อมเมืองอัคราไปยังทัชมาฮาล

อนุสรณ์แห่งความรักหรือความตาย?

ทัชมาฮาลมีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน จากหลายชาติทั่วโลก การก่อสร้างกินเวลานาน 22 ปี (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1632 – 1654) หลังจากที่สร้างทัชมาฮาลเสร็จสิ้นแล้ว พระเจ้าชาห์ ชหาน ทรงหลงใหลในความงามของทัชมาฮาลและเกรงว่าเหล่าสถาปิกผู้ร่วมออกแบบและผู้สร้างทั้งหลายจะ ไปออกแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามเช่นนี้อีกจึงได้ทรงสั่งประหาร หรือตัดมือ ตัดขา ควักลูกตา ช่างทุกคนไม่ให้มีโอกาสได้สร้างผลงานที่สวยเท่านี้อีก

Did You Know?

- ตั้งแต่ปี 2550 ทัชมาฮาลของอินเดียอยู่ในรายชื่อ 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลก

- ทัชมาฮาลคืออะไร? ชื่อนี้แปลจากภาษาเปอร์เซียว่า "พระราชวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" ("ทัชมาฮาล" - มงกุฎ "มาฮาล" - พระราชวัง)

- สิ่งของตกแต่งที่มีค่ามากมายของทัชมาฮาลนั้นถูกขโมย เช่น อัญมณีล้ำค่ามงกุฎของโดมหลัก - ยอดแหลมสีทอง แม้แต่ประตูทางเข้าที่ทำด้วยเงินก็โดน

- เนื่องจากคุณสมบัติของหินอ่อน ในเวลาที่ต่างกันของวันและขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ  ทัชมาฮาลสามารถเปลี่ยนสีได้: อาคารจะมีลักษณะเป็นสีขาวสีชมพูในตอนเช้าและสีเงินในเวลากลางคืน

- ทุกวันทัชมาฮาลมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมนับหมื่นคน ปีละ 3 ถึง 5 ล้านคน

- ห้ามบินเหนือทัชมาฮาล

ทัชมาฮาลไม่ได้ถูกสร้างเป็นอนุสรณ์แห่งความรักนิรันดร์ ???

ซึ่งทฤษฏีนี้มาจากความเห็นของศาสตราจารย์ PN Oak ที่ได้เชื่อว่าโลกทั้งโลกติดกับดัก เขาอ้างว่าทัชมาฮาลไม่ได้เป็นหลุมฝังศพของพระมเหสีของ พระเจ้าชาห์ ชหาน หากแต่เป็นของ ชาวฮินดูโบราณ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดฮินดูของพระอิศวร (แล้วเป็นที่รู้จักกันว่าในชื่อ Tejo Mahalaya) หากแต่ต่อมามันถูกช่วงชิงโดยพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุล แล้วก็เพียงแค่ประดับ ตกแต่งบางส่วน และต่อมากลายเป็นทัชมาฮาล อนุสรณ์แห่งความรัก... แน่นอนว่าทฤษฏีนี้มีการอ้างหลักฐานมากมาย หนึ่งในหลักฐานที่อ้างมากที่สุดคือ ห้องพัก หลายห้องของทัชมาฮาลได้ถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าไป ว่ากันว่าห้องนี้มีรูปปั้นหัวขาด ของพระฮิศวรและวัตถุโบราณอื่นๆ ที่แสดงว่ามีการประกอบพิธีกรรมบูชาในวัดฮินดูอยู่ในทัชมาฮาล ทฤษฏีของ PN Oak ได้รับเสียงฮือฮามาก เพราะถือว่าได้เปลี่ยนความคิดตำนานโรแมนติก ของทัชมาฮาลไปอย่างสิ้นเชิง อินเดียถึงขั้นแบนหนังสือของ PN Oakและขู่จะเอาผิดต่อผู้เผยแพร่ทาง อินเทอร์เน็ต เป็นเหตุทำให้โลกต้องตั้งคำถาม

 

อนุสรณ์แห่งความรักอันยิ่งใหญ่... แต่ประชาชนมากมายต้องล้มตาย เพื่อบูชาความรักของคนเพียงคนเดียว แต่ในอีกมุมหนึ่ง หากไม่ได้ความรักอันหน้ามืดตามัวของพระเจ้าชาห์ ชหาน ก็คงไม่มี ทัชมาฮาล มรดกโลกที่สร้างสรรค์จากฝีมือมนุษย์ที่สวยงาม ยิ่งใหญ่ และเป็นที่กล่าวถึงในเรื่องราวของ ความรักที่มั่นคงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

Comments

Knowledge

VDO Update

Merigin