เกม AR และเกม VR คืออะไร แตกต่างกันหรือไม่
ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้นส่งผลให้เทคโนโลยีต่าง ๆ ถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนามาใช้กับเกมเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีเกมได้มีการพัฒนาให้มีรูปแบบเสมือนจริงมากขึ้นเพื่อเพิ่มความสนุกสนานเพลิดเพลินและเพิ่มอรรถรสให้กับผู้เล่นมากขึ้น โดยวันนี้ผู้เขียนจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยีของเกม VR และ AR กันว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
เรามาเริ่มกันที่เทคโนโลยี VR กันก่อนเลย ซึ่ง VR อาจจะเป็นชื่อที่คุ้นหูใครหลาย ๆ คนอยู่แล้ว โดยคำว่า VR ย่อมาจาก Virtual Reality ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จำลองแบบดิจิทัลกราฟิก โดยสร้างสถานที่ขึ้นมาเป็นโลกเสมือนจริงแบบ 360 องศา ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการมองเห็น โดยจะมีอุปกรณ์เป็นตัวกลางในการเล่นเกม เช่น แว่นตา , Smartphone หรืออุปกรณ์สวมใส่เพื่อเชื่อมต่อไปยังโลกเสมือน โดยผู้เล่นสามารถโต้ตอบหรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานท่านอื่น ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งผู้ใช้งาน VR จะสามารถรับรู้ไม่ว่าจะเป็นจากทางการมองเห็น เสียง การสัมผัสหรือแม้กระทั่งกลิ่นนั่นเอง โดยส่วนใหญ่เทคโนโลยี VR จะถูกนำมาใช้ในวงการเกมและภาพยนตร์แอนิเมชั่น
ตัวอย่างเทคโนโลยี VR ที่ถูกนำมาพัฒนาเป็นเกม VR เช่น เกม Half-Life: Alyx , เกม Iron Man VR , เกม Phantom: Covert Ops , เกม Medal of Honor: Above and Beyond , เกมVertigo 2 เป็นต้น
ส่วนเทคโนโลยี AR หรือย่อมาจากคำว่า Augmented Reality เป็นการนำเทคโนโลยีที่นำวัตถุ 3 มิติ มาจำลองเข้าสู่โลกจริงหรือการใช้เทคโนโลยีในการสร้างภาพดิจิทัลกราฟิกให้ซ้อนทับอยู่บนสภาพแวดล้อมของโลกจริงด้วยการใช้ระบบซอฟต์แวร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ โดยวัตถุเสมือนที่ว่านั้นอาจจะเป็นภาพ วีดีโอหรือเสียง การสัมผัสก็ได้ โดยผู้ใช้งานจะต้องมองผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สามารถแสดงภาพได้ เช่น มือถือ , อุปกรณ์สวมใส่ , จอภาพ , คอนแทคเลนส์ Hardware ด้วยอุปกรณ์เหล่านี้จะสามารถทำให้เราสามารถตอบสนองกับสิ่งจำลองได้
ตัวอย่างเทคโนโลยี AR ที่ถูกนำมาพัฒนาเป็นเกม AR ที่เห็นได้เด่นชัด เป็นที่รู้จักและนิยมมากที่สุดคือเกม Pokémon GO ส่วนเกมอื่น ๆ เช่น Zombies, Run! , Real Strike และ Monster Buster: World Invasion เป็นต้น
ซึ่งกล่าวโดยสรุปก็คือ เทคโนโลยี VR คือการจำลองโลกเสมือนจริง ส่วนเทคโนโลยี AR คือ การนำวัตถุเสมือนมาใช้กับโลกความจริงนั่นเอง
Comments