
ถ้าพูดถึงร้านกาแฟคาเฟ่สมัยนี้ ไม่ว่าจะเดินผ่านไปผ่านมาทางไหน ทุกคนก็คงจะเห็นร้านเหล่านี้เกิดขึ้นมากมายแข่งกับร้านสะดวกซื้อเจ้าประจำเลยก็ว่าได้ แต่ด้วยภาวะที่มีร้านเกิดขึ้นมากมายจะทำอย่างไรที่ร้านจะเป็นที่จับตามองและดึงดูดลูกค้าได้ แน่นอนว่าต้องมีธีมร้านที่น่าสนใจหรือมีลูกเล่นแปลก ๆ ใหม่ ๆ มาดึงดูด วันนี้ MiXMAYA มีร้านคาเฟ่ย่านอารีย์มาฝากท่านผู้อ่านกัน จะดึงดูดแค่ไหนไปติดตามกันเลยค่ะ
เหตุเกิดเมื่อผู้เขียนคิดงานไม่ออกและอยากไปหาร้านคาเฟ่นั่งทำงานสร้างแรงบันดาลใจ เลยหยิบโน้ตบุ๊คสะพายเป้ขึ้นรถไฟฟ้าไปลงสถานีที่เป็นแหล่งชุกชุมของเหล่าร้านคาเฟ่นั่นก็คือสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ ลังเลอยู่นานว่าจะลงประตูไหนดีเลยเลือกลงช่องประตูที่ 1 และเดินตรง มาประมาณ 150 เมตร เหลือบไปเห็นช่องทางเข้าแนวยาวสีดำ ๆ ด้านซ้าย และมีคนกำลังถ่ายรูปอยู่ ผู้เขียนเองก็ไม่ลังเลที่จะเข้าไปถามสองสาวที่กำลังถ่ายรูปอยู่ หน้าประตูนั้นว่าเจ้าสถานที่นี้มันคืออะไรกันแน่นะ จนได้คำตอบว่ามันคือทางเข้าตาเฟ่แห่งความตาย โอ้!! คาเฟ่แห่งความตาย จะรีรออยู่ใยเราเก็บบรรยากาศมาฝากกันค่ะ
Kid-Mai Death Cafe” (มรณานุสติคาเฟ่) คาเฟ่ที่จะทำให้คุณเข้าใจโลกแห่งความตายมากขึ้น
แค่เพียงเดินถึงประตูทางเข้าที่ทอดยาวเข้าไปสู่ตัวร้านก็จะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศความมืดมิดที่มีกลิ่นอายของความตายกันแล้ว โดยตลอดระยะทางที่เดินเข้าไปในตัวร้านนั้น ด้านบนก็จะมีข้อความที่เป็นการเตือนสติแขกผู้ที่มาเยี่ยมเยียน เช่น วันนี้คุณเหนื่อยไหม? เป็นต้น เหมือนเป็นตำถามที่ให้เราพิจารณาตัวเองก่อนที่จะเข้าไปสู่ควมลี้ลับในร้านต่อไป
พอเดินมาสุดทางเข้ามาถึงในร้านก็จะเห็นบรรยากาศร้านที่ถูกจัดไว้อย่างเป็นสัดส่วนแต่ก็แงไปด้วยความร่มรื่นของแมกไม้ที่มีกลิ่นอายของธรรมชาติอยู่ด้วย
พอเดินตรงเข้ามาในตัวร้านก็จะเห็นโลงศพพร้อมพวงหรีดและกรอบรูปชาตะมรณะ ที่ถูกจัดไว้เพื่อให้ลูกค้าได้ลองลงไปนอนและสัมผัสความรู้สึกกันว่าสุดท้ายแล้วจุดจบของมนุษย์ทุกคนก็คือความตายนั่นเองโดยที่โลงศพนั้นจะมีผ้าปูในโลงเป็นสีชมพู เพื่อซอฟความน่ากลัวให้เบาลงสักหน่อย พอลูกค้าลงไปนอนประมาณ 1-2 นาที ก็จะมีสมุดให้เราได้เขียนว่าเรารู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้ลงไปอยู่ในจุดสุดท้ายของชีวิต
ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาถ้าใครอยากลองสัมผัสประสบการณ์นี้ก็จะมีพนักงานคอยบริการอยู่เช่นกัน
ถัดมาอีกมุมก็จะเป็นมุมที่เกี่ยวข้องกับความตายเช่นกัน แต่เป็นในส่วนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับความตาย
เช่น การเขียนสาสน์หรือจดหมายถึงตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นตอนมีชีวิตอยู่หรือ เสียชีวิตไปแล้วก็ตาม
อันนี้เป็นการเล่าประสบการณ์การบริจาคร่างกาย ว่าถ้าอยากบริดจาคร่างกายคุณต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
ส่วนเอกสารโต๊ะนี้จะเป็นเกี่ยวกับรายละเอียดค่าใช้จ่ายฝนการจัดงานศพของแต่ละวัด ว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
และส่วนนี้จะเป็นการจำลองการเขียนพินัยกรรมและการจัดการมรดกนั่นเอง ซึ่งทุกส่วนก็จะเป็นเรื่องราวก็เกี่ยวข้อกับความตายทั้งสิ้น
พอเดินผ่านมาทางหน้าร้านอีกรอบจะเห็นโซฟาสามตัวที่มีเจ้าโครงกระดูกวางนอนอยู่โซฟาตัวกลาง ใครที่ผ่านไปผ่านมาก็สามารถไปถ่ายรูปเป็นที่ระทึก เอ้ย เป็นที่ระลึกกันได้ และทางร้านยังมีป้ายคำคมต่าง ๆ เอาไว้ให้ลูกค้าเป็นพร้อบถ่ายรูปอีกด้วย
เพียงแค่กลับหลังหันไปก็เจอห้องใหญ่ ๆ ห้องหนึ่งชื่อห้องว่า BIRTH EXPERIENCE เป็นห้องจำลองการเกิดนั่นเอง
ซึ่งห้องนี้ใครที่สนใจสามารถเข้าไปนอนคู้ในเปลที่จัดไว้ให้ได้ ซึ่งเป็นการจำลองการอยู่ในท้องแม่ก่อนที่เราจะเกิดมา ให้เราหลับตาและจินตนาการว่าเรากำลังอยู่ในท้องแม่ที่มีผนังเป็นสีแดงเพื่อต้องการให้จินตนาการว่าสิ่งเหล่านั้นคือเลือดและน้ำคร่ำ และให้เราลืมตาและลองไตร่ตรองดูว่ากว่าที่เราจะได้เกิดมายากลำบากแค่ไหนนั่นเอง
ยังค่ะ ความท้าทายยังไม่หมด เกิดก็ลองมาแล้ว ตายก็ลองมาแล้ว เรามาลองเป็นคนชรากันบ้าง ทางร้านจะมีอุปกรณ์การเป็นคนแก่ไว้ให้ลูกค้าได้สวมบทบาทกันด้วย มีทั้งเสื้อหลังค่อม สวมถูงศอก มือ ข้อเข่า เท้า สวมแว่นตาสีฟ้า มีไม้เท้าให้เลือกตามที่เราเหมาะมือ และมีทางต่าง ๆ เพื่อให้เราได้ลองเดินว่าการเป็นคนแก่ที่แท้จริงนั้นมันลำบากมากกว่าวัยรุ่นอย่างเรา ๆ ซะอีก
มาดูในส่วนของบรรยากาศร้านกันบ้าง ที่นี่ค่อนข้างร่มรื่นถูกจัดสรรปันส่วนได้อย่างเมาะสมและน่าสนใจ
และนอกจากนี้ยังมีความรู้เรื่องต่าง ๆ ให้กับคนที่ชอบเรื่องราวคติชนต่าง ๆ ให้ศึกษาอีกด้วย
หรือแม้แต่ความรู้เรื่องอาหารก็ยังมีการจำลองไว้ด้วยค่ะ
ภายในร้านมีที่นั่งหลายโซนให้เลือกไม่ว่าจะเป็นในด้านคาเฟ่ในห้องแอร์หรือแม้แต่ในสวนที่ถูกจัดเอาไว้ได้อย่างเป็นสัดส่วนและโล่งสบาย และเอกลักษณ์ของการนั่งจิบกาแฟในสวนแห่งนี้คือจะมีคติการใช้ชีวิตต่าง ๆ ประดับตามต้นไม้อีกด้วยค่ะ
เรามาดูในส่วนของคาเฟ่ที่นี่กันบ้าง เค้าเตอร์เป็นเค้าท์เตอร์เล็ก ๆ ใช้สีสันโทนดำเพื่อให้เข้ากับความหม่นของธีมร้าน
เมนูเครื่องดื่มที่นี่ก็จะมีปกติคล้าย ๆ กับเมนูตามคาเฟ่ทั่ว ๆ ไป
แต่ สิ่งที่น่าสนใจของเครื่องดื่มที่นี่มี 4 ชนิดด้วยกันคือ เมนู เกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งผู้เขียนเลยเลือกสั่งเมนูสุดท้ายไป ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเลยเอาให้สุด
และนี่ก็คือ เมนู DEATH (ตาย) เป็นเหมือนโกโก้ปั่นมีวิปครีมข้างบน แต่ทุกส่วนประกอบมีความหมายนะจ๊ะ ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นแท่งชอกโกแลตนั่นเป็นเสมือนธูป วิปครีมคือสิ่งที่คงเหลือไว้ในร่างกาย ส่วนตัวโกโก้ปั่น คือร่างกายของมนุษย์ และโกโก้ครีมด้านล่างสุด คือ การคืนสู่ธรรมชาติ
Location : อารีย์ซอย 1 ลงบีทีเอชอารีย์ลงประตูช่อง 1 เดินตรงมาประมาณ 150 เมตร ร้านอยู่ดานซ้ายมือ
ร้านเปิด-ปิด 10.00-19.00 น.
ร้านคาเฟ่ที่มีอะไรที่มากกว่าคาเฟ่ธรรมดา
Kid-Mai Death Cafe” (มรณานุสติคาเฟ่) คาเฟ่ที่จะทำให้คุณเข้าใจโลกแห่งความตายมากขึ้น
Comments