เผยเบื้องหลังเรื่องราวสุดลับของหลากตัวละครสุดฮา เดินหน้าเสริมความอลเวง ใน Tom & Jerry ฉบับภาพยนตร์ - Mixmaya.Com
  • Home
  • entertainment
  • เผยเบื้องหลังเรื่องราวสุดลับของหลากตัวละครสุดฮา เดินหน้าเสริมความอลเวง ใน Tom & Jerry ฉบับภาพยนตร์
เผยเบื้องหลังเรื่องราวสุดลับของหลากตัวละครสุดฮา เดินหน้าเสริมความอลเวง ใน Tom & Jerry ฉบับภาพยนตร์

เผยเบื้องหลังเรื่องราวสุดลับของหลากตัวละครสุดฮา เดินหน้าเสริมความอลเวง ใน Tom & Jerry ฉบับภาพยนตร์

ไม่ว่าคุณจะเชียร์ ทอม หรือ เจอร์รี่ ก็ตาม กว่า 80 ปีที่ทั้งคู่สร้างความบันเทิงให้ผู้ชมทุกยุกสมัย คุณต้องเลือกฝั่งแล้วล่ะ และนี่คือเรื่องราวเบื้องหลังสุดซ่าของตัวละครสุดฮา ใน "Tom & Jerry" ภาพยนตร์ Live Action เมื่อทั้งคู่กัดแอบซี้ต้องเดินทางออกจากบ้านแสนสุข แยกย้ายกันมุ่งตรงสู่เมืองหลวง แต่ด้วยโชคชะตาพวกเขาจึงกลับมาพบกันอีกครั้งที่โรงแรมสุดหรู ก่อนที่เรื่องราวทุกอย่างจะวุ่นวายอลมานมากกว่าที่เคย

“พวกเขาตลกดีค่ะ” คริส เดอฟาเรีย ผู้อำนวยการสร้างฯกล่าว “ความตลกรวมถึงเวลาที่พวกเขาอยู่ในการ์ตูนด้วย มุกตลกที่ตามไล่ตบตีกันมีความเป็นอมตะ เพราะมันใช้ได้ผลกับทุกครอบครัว ใครๆ ก็มีความสุขกับมันได้ และทอมกับเจอร์รี่ก็น่ารักมากด้วย ภาพเคลื่อนไหวของพวกเขาออกแบบมาดูดีมาก ดูไร้เดียงสาและแสดงออกถึงความเป็นพวกเขาได้มากเลย ในหนังยังเห็นเรื่องราวการแข่งขันของพวกเขาอย่างชัดเจนด้วย ฝ่ายหนึ่งอาจไม่ใช่ฝ่ายถูกต้องเสมอไป บางครั้งความฉลาดก็เหนือกว่าความแข็งแกร่ง”

ความขัดแย้งในชีวิตจริงบางอย่าง เช่น ระหว่างพี่น้อง มักจะมีให้เรียนรู้ได้บ่อย “ทอมกับเจอร์รี่คือคู่แข่งที่ติดกันอย่างแน่นแฟ้น” เดอฟาเรียเล่าเสริมว่า “แต่อย่างเรื่องพี่น้อง พวกเขาต่างมีความสำคัญในชีวิตของกันและกัน แต่ยืนยันได้เลยว่าพวกเขาไม่มีทางยอมรับมันหรอก!”

สำหรับสตอรี่ที่ตอนนี้ได้กำกับฯ ไลฟ์แอ็คชั่นเล่าว่า “ผมตื่นเต้นกับการถ่ายทอดเรื่องนี้สู่หน้าจอ และได้พาพวกเขามาอยู่ในโลกแห่งความจริง ได้เห็นพวกเขาวิ่งและต่อสู้กันในเมืองใหญ่อีกเมืองหนึ่งอย่างนิวยอร์ค”

“ผมโตมากับการ์ตูนพวกนี้” เขาเล่าต่อว่า “ผมเลยอยากแน่ใจว่าเราคงความเป็นพวกเขาแบบเดิมได้ พวกเราไม่อยากแก้ไขอะไร ผู้ชมจะได้ยินซาวด์เอ็ฟเฟ็กต์แบบที่เคยได้ยินเวลาทอมกับเจอร์รี่ไล่ล่า และทำลายข้าวของที่อยู่รอบตัว เรามั่นใจว่าพวกเขาได้สู้กันบ่อยขึ้นแน่นอน” เขาหัวเราะ สำหรับจุดพลิกผันของเรื่องเขาเปิดเผยว่า “มาถึงจุดหนึ่งพวกเขาก็ต้องสามัคคีและร่วมมือกันเพื่อกอบกู้สถานการณ์”

ฉันโดดเด่นภายใต้แรงกดดัน เหมือนกับเพชรหรือริฮานน่า สำหรับเรื่อง “Tom and Jerry” ที่เกิดขึ้นบนโลกแห่งความจริง ทิม สตอรี่ ผู้กำกับ ได้รวมทีมนักแสดงมนุษย์ที่น่าประทับใจมาแสดงร่วมกับนักแสดงจากภาพเคลื่อนไหว เริ่มจาก โคลอี้ เกรซ โมเร็ตซ์ ผู้รับบทนางเอกสาวเคย์ล่า

“เคย์ล่าเป็นตัวละครที่มีความน่าสนใจค่ะ” เธอกล่าว “เธอมีความน่ารักแบบแปลกๆ ในมุมของการตัดสินใจเรื่องแย่ๆ และชอบโกหกอยู่บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายเธอก็คว้าตำแหน่งระดับสูงของโรงแรมนี้ไว้ได้ ซึ่งเธอไม่ได้มีความเหมาะสมอย่างเป็นทางการเลยสักนิด แต่ฉันคิดว่าทุกคนจะเข้าใจเธอได้ค่ะ เพราะเธอไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายใดๆ เลย เธอทำเพื่อพยายามพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเธอคู่ควรกับที่นี่ แม้ว่าเธอจะทำไม่ค่อยถูกไปสักหน่อย และแน่นอนว่าเธอต้องรับภารกิจกำจัดหนู และคิดได้ว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการจ้างแมว ฟังดูเข้าท่าดีออกจริงมั้ย?”

โมเรตซ์สนุกกับการรับบทเคย์ล่ามากเพราะ “เธอดูเป็นคนซื่อๆ มีหลายอย่างที่เหมือนกับตัวฉันเลยค่ะ ไม่รวมเรื่องขี้โกหกนะ!” เธอหัวเราะ “แต่เป็นพวกเรื่องการทำอะไรเกินจริง ถือเป็นมุมที่น่าตลกของเธอค่ะ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ฉันได้รวมความเป็นธรรมชาติของตัวเองและสไตล์การเล่นมุกแบบตัวเองเข้ากัน ได้เป็นโคลอี้ในแบบที่อยู่กับครอบครัว และบทบาทที่ได้แสดงค่ะ”

ในมุมของความตลกคืออีกสิ่งหนึ่งในหนังที่ดึงดูดโมเรตซ์ได้ “ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับทิม ความวิเศษอย่างหนึ่งคือเขาบอกฉันว่าให้คิดถึงโลกนี้ในมุมกลับ เราอยู่ในนิวยอร์คซิตี้ ทุกอย่างก็ดูเหมือนนิวยอร์คซิตี้ แต่ถ้าเรามองไปรอบตัว สัตว์ทุกชนิดอย่างสุนัขที่มีไว้ให้เช่า หรือปลาที่อยู่บนจานแล้วกำลังจะมีคนกิน มันเหมือนกับภาพวาด มันมีส่วนประกอบของจินตนาการอยู่ในโลกแห่งความจริง ซึ่งเป็นมุมที่ทำให้ฉันรู้สึกชอบมากค่ะ”

นักแสดงยังสนุกกับบรรยากาศที่สตอรี่สร้างเอาไว้ในฉากด้วย เธอเล่าว่า “ทิมจัดฉากให้ดูเป็นลักษณะเปิดกว้างและอุ่นใจ ไม่เคยมีคำว่า ‘อย่านะ เธอทำแบบนั้นไม่ได้’ หรือ ‘อย่านะ มันไม่ถูก’ แต่มักจะเป็น ‘ได้สิ และ...’ มันช่วยให้ฉันคิดถึงการแสดงและได้ลองสิ่งใหม่ๆ มากขึ้นค่ะ”

และสตอรี่เองก็รักการแสดงของเธอในบทเคย์ล่า “โคลอี้เป็นคนสร้างความมหัศจรรย์ในหนังและบนโลกใบนี้ หนังเรื่องนี้เราจะได้เห็นเธอเล่นมุกเยอะมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะจะได้เห็นเธอพูดคนเดียวบ่อยมาก เพราะมีหลายฉากที่เธอต้องแสดงกับทอมและเจอร์รี่ แต่เธอก็แสดงออกมาได้ดี”

“ความสนุกของการร่วมงานกับตัวละครแอนิเมชั่นคือการที่ฉันต้องแสดงกับตัวเองในฉากค่ะ การแสดงที่ออกไปต้องใช้ความกล้า ทำให้ทีมศิลปินจะสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบไหนก็ได้ และนั่นคือประสบการณ์ที่วิเศษมากเลยค่ะ” เธอกล่าว

สิ่งที่ผลักดันการกระทำของเคย์ล่าส่วนใหญ่มาจากการที่เธอพยายามจัดการกับเรื่องวุ่นๆ ที่เกิดขึ้นจากทอมกับเจอร์รี่ โดยที่ไม่ให้หัวหน้าของเธอ เทเรนซ์ ผู้ควบคุมดูแลงานอีเวนท์ของโรงแรมสังเกตเห็นมันได้ เพราะเขาคอยจับตามองเธออยู่ตั้งแต่เริ่มแรก

สตอรี่เล่าว่า “เทเรนซ์คือคนร้ายคนสำคัญของเราในหนัง และบทนี้แสดงโดยไมเคิล พีน่าคนเก่ง”

“ทิม สตอรี่เป็นผู้กำกับฯ ที่ไม่อยากเพิ่มความกดดันใดๆ ลงไปในฉาก ถือเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับนักแสดงครับ” ไมเคิล พีน่ากล่าว “ถ้าเขามีเรื่องที่เคยกังวลอะไรในฉาก เราไม่มีทางรู้ได้เลย ทุกอย่างมันดูเรียบง่ายไปหมดสำหรับเขา”

“ในหนังตัวละครของผมคือเทเรนซ์ เขาอยากทำให้งานแต่งออกมาน่าประทับใจ” นักแสดงชายกล่าว “เพราะนี่คืองานแต่งที่ยิ่งใหญ่สุดของ Royal Gate เท่าที่เคยจัดมา และเขารู้ว่าภาพที่ออกไปจะต้องดูดีมาก โดยเฉพาะสำหรับตัวเขาเอง เขาเลยพิถีพิถันเรื่องโรงแรมเป็นพิเศษ เพราะพ่อของเขาเองก็เคยทำงานที่นี่ด้วย แต่ที่สำคัญสุดคือเขาต้องการประกาศให้โลกรู้ นั่นคือเหตุผลสำคัญที่เขาอยากให้งานออกมาดีสุดๆ”

ซึ่งเขาต้องจับตาดูพนักงานใหม่อย่างเคย์ล่าเป็นพิเศษ “เขาต้องแบกรับอะไรหลายอย่างรอบตัว และรับมือกับคนที่มีความแตกต่างกันหลากหลาย” พีน่าเล่าต่อว่า “จากนั้นเคย์ล่าก็เข้ามา เขาไม่รู้จักเธอมากพอนัก แล้วยังมีปัญหาเรื่องหนูเข้ามาอีก ซึ่งเธอก็ตัดสินใจจ้างทอมและจากนั้นหายนะก็บังเกิด”

โมเรตซ์เล่าเสริมว่า “ฉันคิดว่าเทเรนซ์มีเซนส์เรื่องการโกหกของเคย์ล่าที่เธอกุไว้ ซึ่งมันยังดูไม่เห็นเด่นชัดสักเท่าไหร่ ไมเคิลเป็นคนที่รับบทนั้นได้อย่างสนุกมากค่ะ”

"โคลอี้เป็นคนที่น่าทึ่ง” พีน่ากล่าว “เธอผ่านการแสดงมานานและยังคงเหมือนอายุแค่ 22 จากตอนที่เราถ่ายหนังกัน เธอเป็นคนเตรียมตัวดีมากและทุ่มกับการแสดงสุดตัว เธอมีจังหวะการเล่นมุกที่เก่ง รู้ว่าตอนไหนควรเล่นใหญ่และตอนไหนควรแสดงให้ดูเรียบง่าย การร่วมงานกับเธอคือเรื่องที่ดีมากครับ”

แม้ว่าเคย์ล่าต้องทำงานภายใต้การจับตามองของเทเรนซ์ แต่จริงๆ แล้วผู้จัดการโรงแรมคนที่เธอต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอมีคุณสมบัติเหมาะสมต่อตำแหน่งนี้ คือ ร็อบ ดีลานีย์ ผู้รับบทคุณดูบรอสที่ไม่ค่อยจับตาดูอะไรมากนัก

“ตอนเป็นเด็กผมดู 'Tom and Jerry' เยอะมากจนถึงขั้นติดหนัก” เขาเล่าถึงอดีต “เขาจะชอบไล่ตีกันไปมา เป็นอะไรที่สนุกดี ผมชอบการมองในมุมที่ต่างกันของพวกเขาด้วย เรามักจะเห็นภาพด้านล่างของขามนุษย์ ได้เข้าไปในรูหนูเล็กๆ ของเจอร์รี่ ซึ่งมักจะมีพวกเฟอร์นิเจอร์ที่เขาขนมาจากที่ต่างๆ ในบ้าน เช่น กล่องไม้ขีดไฟและพวกหลอดด้าย”

ดีลานีย์อธิบายให้ฟังว่าทำไมตัวละครของเขาถึงดูไม่แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้นใกล้ตัวเขา “เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ หมายความว่าเทเรนซ์ต้องทำอะไรไม่ดีไม่งามหลายอย่าง และดูบรอสจะเป็นคนเซ็นต์อนุมัติหรือไม่ก็ได้ เขาเห็นหลายอย่างอยู่ในการควบคุมจากที่ไกลๆ จากนั้นถึงตัดสินใจเรื่องต่างๆ เขาเลยดูอยู่ไกลตัวจนกระทั่งหลายอย่างยากที่จะควบคุมได้เขาถึงเข้ามาจัดการด้วยตัวเอง”

ดีลานีย์เล่าว่า “เขามองว่าเด็กสาวคนนี้เต็มไปด้วยพลังที่น่าทึ่ง พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มีรอยยิ้มที่สดใส และพร้อมจะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ แต่เขาเพิ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่านี่อาจไม่ใช่งานที่เหมาะกับเธอ และเธอคือคนสร้างหายนะอย่างร้ายแรง 100% แต่เธอเป็นตัวละครที่มีความน่าทึ่ง เพราะเราจะเห็นทุกย่างก้าวของเธอ และคอยเป็นห่วงเธอว่าจะทำภารกิจงานแต่งนี้พัง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง แต่ก็ทำให้หนังออกมาสนุกดี”

แน่นอนว่าในงานแต่งแห่งศตวรรษจะต้องมี 2 คนมาเข้าพิธีแต่งงานกัน ในเรื่อง “Tom and Jerry” คืองานแต่งของเบ็นและพรีตา รับบทโดย โคลิน จอสต์ และ พอลลาวี ชาร์ดา

จอสต์เล่าตลกเกี่ยวกับตัวละครของเขาว่า “เป็นคนที่มีความน่าตื่นเต้นสมชื่อเลย เบ็นและพรีตากำลังจะแต่งงานกัน ซึ่งเป็นคู่ที่สังคมนิวยอร์คซิตี้จับตามองผ่านอินสตราแกรม พวกเขากำลังจะจัดงานแต่งแห่งปีในโรงแรมชื่อดังแห่งนี้ และเบ็นกังวลเรื่องการสร้างความประทับใจให้ว่าที่เจ้าสาว จึงจัดงานให้ยิ่งใหญ่อลังการยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งแน่นอนว่าเธอพยายามสื่อให้เขาไม่ทำอะไรแบบนั้น แต่เขาตื่นเต้นเกินไปและอยากสร้างความประทับใจให้เธอ อันที่จริงคือพ่อเธอต่างหาก  เขาเลยบินไปต่างประเทศและสร้างเซอร์ไพรส์หลายอย่างที่เขาคิดว่าเธอควรจะได้รับ แต่ก็อาจเป็นสิ่งที่เธอไม่ต้องการเช่นกัน”

ชาร์ดายืนยันว่า “มันตลกมากค่ะที่หนุ่มอเมริกันผิวขาวอยากได้งานแต่งแบบชาวอินเดียที่ยิ่งใหญ่ ส่วนสาวชาวอินเดียแท้ๆ กลับอยากได้งานธรรมดาที่เรียบง่าย พวกเขาเลยมีปากเสียงกันและทุกอย่างก็ผิดแผนไปซะหมดเลย เพราะในโรงแรมมีสัตว์ต่างๆ อยู่ทั่วทุกแห่ง ตอนที่ทอมและเจอร์รี่เข้ามาร่วมวงด้วย พวกช้างก็พากันหวาดกลัวหนู ความวุ่นวายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นในทุกงานแต่ง โดยเฉพาะงานแต่งของชาวอินเดีย จนทุกอย่างดูบ้าคลั่งอย่างสุดขีด”

ชาร์ดาเล่าถึงความเป็นสากลของตัวการ์ตูนคู่นี้ว่า “พ่อของฉันโตที่อินเดียเล่าว่าวิทยาลัยของเขาในนิวเดลีเคยฉายการ์ตูน ‘Tom and Jerry’ บนจอขนาดใหญ่ในที่สาธารณะด้วย!”

นักแสดงหญิงรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมในผลงานที่มีความสำคัญต่อครอบครัวเธอเอง และรู้สึกดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับคู่หมั้นบนหน้าจอของเธอ “โคลินเหมือนกับความฝันเลยค่ะ และฉันโชคดีมากที่ได้ร่วมงานกับเขา เราเจอกันครั้งแรกที่โต๊ะอ่านบท เราเดินทางมากันไกลมากทั้งคู่ เขามาจากสหรัฐฯ ส่วนฉันมาจากออสเตรเลีย และต้องมาเหนื่อยกับบทที่ทะเลาะกันเลย ซึ่งมันก็ทำให้การถ่ายทำที่เหลือของเราผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ!”

จอสต์เองก็รู้สึกแบบเดียวกัน “พอลลาวีเป็นคนที่ร่วมงานด้วยแล้วสนุกครับ” เขากล่าว “เธอเป็นคนตลกและอยากทำให้ผมทำให้เธอหัวเราะ และผมคิดว่ามันทำให้เกิดเคมีโดยธรรมชาติระหว่างเบ็นกับพรีตาด้วย” พนักงานอีกคนใน Royal Gate คือพนักงานบาร์เจ้าเสน่ห์ คาเมรอน ผู้มีความสุขที่ได้ช่วยเหลือเคย์ล่า รับบทโดย จอร์แดน โบลเกอร์ เขาเล่าว่า “ครั้งแรกที่เคย์ล่าเริ่มทำงานที่โรงแรม คาเมรอนคอยดูแลและช่วยเหลือเธอให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แล้วยังมาช่วยแก้ปัญหาเรื่องเจอร์รี่ เพราะเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโรงแรมและให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับเคย์ล่าได้ ผมคิดว่าเขาก็มีจุดอ่อนเรื่องเธออยู่ นั่นก็เป็นอีกเหตุผลที่เขาอยากช่วยเหลือเธอและได้เห็นเธอทำสำเร็จ”

อีกตัวละครหนึ่งที่น่าสนใจมากในเรื่องความสำเร็จของเขาคือเชฟแจ็คกี้ เคน จอง มารับบทนี้และสร้างความตลกให้บทเชฟได้อย่างมาก “เขาเป็นคนที่ดูเครียดและเจ้าอารมณ์มาก เขาต้องมาจัดอาหารในงานแต่งที่ยิ่งใหญ่สุดในการทำงานและในชีวิต ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวันนี้เพียงวันเดียวเลย” จองกล่าว

วันแรกของการถ่ายทำเป็นฉากการเผชิญหน้ากันอย่างเคร่งเครียดระหว่างตัวละครของเขา เคย์ล่ากับเทเรนซ์ “มันสนุกมากครับเพราะผมเป็นแฟนของทั้งโคลอี้และไมเคิล ผมเคยร่วมงานกับทิม สตอรี่มาแล้ว เราเลยเหมือนเพื่อนเก่ากัน” จองอธิบายเพิ่มถึงความเข้มข้นในการรับบทแจ็คกี้ที่กลับง่ายขึ้นได้เพราะ “ทิมทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย และความผ่อนคลายสำหรับนักแสดงคือสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะในหนังแบบนี้ที่ต้องมีความวุ่นวายและเรื่องยุ่งๆ เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน”

"ผมรู้ว่าเคนจะมอบความตลกอย่างมหาศาลให้พวกเราได้ และรับมือกับทุกอย่างที่เป็นเชฟแจ็คกี้ได้ ซึ่งเขาก็ทำได้จริงๆ” สตอรี่กล่าว “มันสนุกมากครับที่ได้เขามาร่วมงานในเรื่อง”

อีกตัวละครหนึ่งที่มีความแปลกในเรื่องชื่อว่า จอย พนักงานขนกระเป๋าหญิงในโรงแรม จอยรับบทโดย แพทซี่ เฟอร์แรน เธอยอมรับเรื่องตัวละครว่า “ไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุดในกลุ่ม เธอมีความแปลกและดูคาดเดาอะไรไม่ได้ เธอเข้ามาช่วยให้เรื่องราวมีอะไรมากขึ้นเพื่อ เคย์ล่า ตัวละครของโคลอี้ ที่พยายามดูแลความไม่ปกติของจอย ทำให้บทจอยเป็นบทที่สนุกในการเล่นค่ะ”

เฟอร์แรนได้เล่าถึงเมื่อก่อนว่า “ทอมกับเจอร์รี่คือการ์ตูนเรื่องเดียวที่ฉันจำได้ว่าได้ดูแลโตมากับมัน ฉันเลยตื่นเต้นมากค่ะที่ได้มาร่วมงานในเรื่องนี้”

สตอรี่ได้รวมผู้มีชื่อเสียงหลายท่านมาร่วมรับบทบาทเด่นต่างๆ รวมถึงิ นักร้องชาวเปอร์โตริโกที่ชอบสร้างความตื่นเต้น ผู้รับบทพนักงานในโรงแรม; พิธีกรทางทีวีชาวอิตาเลียน เปาโล โบโนลิส ผู้รับบทแขกที่มาร่วมงานแต่ง และผู้ประกาศข่าวกีฬาชาวอเมริกัน โจ บัค ผู้รับบท…โจ บัค

นักแสดงที่ปรากฏรอบตัวละครแอนิเมชั่นในเรื่อง “Tom and Jerry” จะออกมาในรูปแบบ 2 มิติ ซึ่งมีทั้งนักแสดงที่คุ้นหน้าและนักแสดงหน้าใหม่ บางคนก็ให้เสียงพากย์ที่ผู้ชมจะจดจำได้ (ต่างจากตัวละครโปรดของเรา ทั้งแมว หนู และอีกหลายตัวที่พูดได้!)

สไปค์ ให้เสียงพากย์โดยบ็อบบี้ แคนนาเวล บุลด็อกจอมเกรี้ยวกราดเพื่อนซี้ของเจ้าบ่าว ซึ่งเจ้าบ่าวคนนั้นคือเบ็น ผู้เป็นเจ้าบ่าวในงานแต่งสุดไฮโซที่จัดขึ้นใน Royal Gate Hotel โรงแรมหรูแห่งนิวยอร์ค แต่ความหรูหราในบรรยากาศนั้นไม่ช่วยให้เขาหยุดการไล่ล่าทอมอย่างเกรี้ยวกราดลงได้เลย

ทูตส์ แมวสาวผู้สง่าและแฝงความไร้เดียงสาเดินทางมาที่ Royal Gate Hotel และอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าสาวไฮโซ แต่ทูตส์กลับไม่วางตัวสูงส่งเหนือไปกว่าทอม หรือกางกรงเล็บออกมาเวลาที่เห็นเจอร์รี่เลย

โกลดี้ ว่ายน้ำอย่างมีความสุขอยู่บนโต๊ะทำงานของคุณดูบรอส ผู้จัดการทั่วไปแห่ง Royal Gate Hotel  และคอยแอบหัวเราะเยาะเทอร์แรนซ์ ผู้จัดการดูแลอีเวนท์ต่างๆ ขณะที่พยายามพัฒนาความสัมพันธ์กับเคย์ล่า พนักงานใหม่ของเขา แม้ว่าเธอจะจ้างทอมให้มาจัดการแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเจอร์รี่ก็ตาม

บุตช์ หัวหน้าแก๊งค์แมวข้างถนน ให้เสียงพากย์โดยนิคกี้ แจม ซึ่งต้องเคยเห็นเขาในหนังแนวนักเลงอันธพาลทุกเรื่องเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพราะเขามีความเข้าใจในทุกรายละเอียดและความแตกต่างของชีวิตข้างถนน เมื่อเขาเห็นทอมมาอยู่ในอาณาเขตตัวเอง เขาจึงรวมตัวแก๊งค์มาขับไล่ทอม แต่ทอมกลับว่องไวและฉลาดกว่า จนกระทั่งพวกเขาต้องไปลงเอยที่ศูนย์พักพิงช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่นอีกครั้งตามเคย

ไม่มีใครอยากมีปากเสียงกับ ไลท์นิ่ง ที่ให้เสียงพากย์โดย โจอี้ เวลส์ ผู้ฉลาดที่สุดในกลุ่มเลย เขาดูตัวเล็กกว่าปกติ  ชอบมองบุตช์เป็นแบบอย่าง แต่ก็ไม่เคยเดินช้าล้าหลังและนำหน้าเขาจนเกินไปเลย

ท็อปซี่ มีขนาดความสูงที่เล็กมากให้เสียงพากย์โดย แฮร์รี่ แรตช์ฟอร์ด ไม่เข้าร่วมในเกมใดๆ ทั้งนั้น เขาถูกมองข้ามจากเพื่อนสมาชิกในกลุ่ม บุคลิกดูซับซ้อนแบบนโปเลียน แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการกระโดดขึ้นไปบนกล่องที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อมองดูสมาชิกของแก๊งค์อย่างใกล้ชิด

แน่นอนว่าการ์ตูนแมวไล่จับหนูแห่งตำนานจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีจิตใจฝั่งดีและร้ายของตัวเองเกิดขึ้น…

 

ด้านจิตใจฝั่งดีที่อ่อนโยนของทอมจะคอยแนะทางแก้ปัญหาด้วยความมีเมตตา ส่วนจิตใจฝั่งร้ายเต็มไปปด้วยความเจ้าเล่ห์ และคอยสนับสนุนให้ทอมตามไล่ล่าเจอร์รี่เสมอ

ทอมจะปลุกจิตใจทั้งสองฝั่งขึ้นมาในยามที่เขาต้องอาศัยการตัดสินใจครั้งสำคัญ และเขามักจะได้ยินเสียงในจินตนาการทั้งสองฝั่งกระซิบอยู่ข้างหู ผู้กำกับฯ ทิม สตอรี่ คิดว่ามีเพียงผู้ชายคนเดียวที่จะรับหน้าที่พากย์เสียงนั้นได้ คือ ลิล เรล โฮเวอรี่

สำหรับการสร้างบรรยากาศงานแต่งให้เจ้าสาวพรีตาในแบบที่เขาคิดวาเธอต้องการ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ต้องการเลยสักนิด เบ็นได้ตกลงกับทางโรงแรมให้จัดงานเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ขึ้นมา

ซึ่งสองสมาชิกสำคัญในงานแต่งแห่งศตวรรษคือซีซิลและมัลคอล์ม ทั้งคู่เคยผ่านงานแสดงอย่างโชกโชนจนยากจะหาที่เปรียบได้ ช้างทั้งสองเชือกนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนบ่าวสาว แต่ทั้งคู่คือดาวเด่นของการแสดง  ซึ่งจากความสามารถที่มีมากขนาดนี้ จะเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นได้?

และสุดท้าย (แม้ว่าในทางเทคนิคจะต้องมาเป็นคนแรก) จะมีการแนะนำผู้ชมไปพบทอมกับเจอร์รี่ในเมืองนิวยอร์คซิตี้ผ่านมุมมองของนก และเสียงดนตรีบนท้องฟ้าของนกพิราบ ซึ่งเป็นแรปเปอร์ของเมืองที่กำลังโด่งดัง (และดังยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ)  เขาคือหนึ่งในสามสหาย บทเพลงที่ได้ยินให้เสียงพากย์โดยผู้กำกับฯ ทิม สตอรี่ ที่เลื่องชื่อด้านการขโมยความน่าสนใจและหัวใจของแฟนๆ ของเขา

แน่นอนว่าแฟนๆ ทอมกับเจอร์รี่และ แฮนนา-บาร์บาร่า จะได้พบความสะดุดตาที่ตัวเองชื่นชอบตลอดทั้งเรื่อง สำหรับการสร้างสิ่งมีชีวิตทั้งใหญ่และเล็กในเรื่อง แผนกแอนิเมชั่นต้องใช้ทีมงานถึง 29 คน โดย 19 คนอยู่ที่สหราชอาณาจักรและอีก 10 คนอยู่ที่ลอสแองเจลิส จะมีการแบ่งงานเป็น 3 ส่วน คือส่วนของการถ่ายทำที่ประกอบด้วยผู้สร้างภาพเคลื่อนไหวและผู้ควบคุมภาพเคลื่อนไหว ทั้งสองหน้าที่นี้ต้งควบคุมและจัดการภายในแผนก ส่วนของการตัดต่อประกอบด้วยผู้ลำดับภาพและผู้ช่วยอีก 2 คน ทำหน้าที่ตัดต่อภาพแอนิเมชั่นเข้าด้วยกัน กำหนดช่วงเวลากับภาพที่ออกมาให้สอดคล้องกัน และส่วนของผู้สร้างภาพเคลื่อนไหวที่ต้องรับภารกิจใหญ่ของแผนก

แน่นอนว่าแรงบันดาลใจของพวกเขามาจากแอนิเมชั่นของทอมกับเจอร์รี่ ซึ่งภายในแผนกจะมีการรวบรวมผลงานเอาไว้มากกว่า 100 ตอนที่ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง แม้ว่าผู้ชำนาญทุกคนเคยดูการ์ตูนต้นฉบับกันมาแล้วตอนเป็นเด็กและตอนโต แต่ยังต้องมีการศึกษาเรื่องจังหวะของการ์ตูนที่ผู้สร้างแอนิเมชั่นต้นฉบับเคยสร้างไว้ ในความเป็นจริงแล้วผู้เขียนเรื่อง ดีน่า อะธานาซิโอ เคยพบกับ วิลเลียม แฮนนามา แล้วเมื่อช่วงต้นปี 1980 และผู้ชำนาญด้านการสร้างสตอรี่บอร์ด ฟิล วอลเลนทิน รู้จักทั้ง แฮนนา และ โจเซฟ บาร์บีร่า เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ส่วนสมาชิกคนอื่นในทีมก็เคยร่วมงานกันเป็นประจำมาก่อน รวมถึงผลงานในเรื่อง “Who Framed Roger Rabbit” และผลงานต้นฉบับของ “Space Jam” ด้วย

ภาพวาดจำนวนมากถูกสร้างขึ้นมาตลอดการทำงาน โดยรวมแล้วมีมากถึง 15,000 ในช่วงก่อนการถ่ายทำ และมีเพิ่มเติมอีกอาทิตย์ละ 900 ภาพในช่วงหลังการถ่ายทำตลอด 26 สัปดาห์ รวมแล้วมีภาพเพิ่มเติมมากถึง 25,000 ภาพ

โมเรตซ์เล่าว่า “ภาพเคลื่อนไหวที่วาดด้วยมือ ทั้งขอบเขตภาพ ลวดลายต่างๆ และสีสัน มันเป็นอะไรที่สนุกเมื่อได้ดู และเป็นสิ่งที่ฉันรักมากตอนที่ยังเด็ก จริงๆ แล้วทอมกับเจอร์รี่และสัตว์อื่นๆ ไม่ค่อยได้ยินการสื่อสารในภาษาคนมากเท่าการตีความของเราเอง มักสงสัยกันว่าพวกเขาพูดอะไรกัน กำลังสู้กันเรื่องอะไร และฉันก็สนุกกับการค้นหาสิ่งนั้นในจินตนาการตามประสาเด็กค่ะ มันเลยเป็นเรื่องที่ดีมากที่ได้เห็นอีกด้านหนึ่งของการสร้างหนังเรื่องนี้”

พบความกับความชุลมุนสุดวายป่วงครั้งใหม่ เมื่อเจ้าเหมียวทอมและเจ้าหนูเจอร์รี่ต้องปิดเกมไล่ล่ากันอีกครั้ง ท่ามกลางฉากหลังของโรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่ง ณ เมืองนิวยอร์ค ใน Tom & Jerry : วันนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

 

Comments

entertainment

VDO Update

Merigin

Related Post