5 ผีในเอเชียที่คุณต้องเคยได้ยินชื่อมาก่อน! - Mixmaya.Com
  • Home
  • entertainment
  • 5 ผีในเอเชียที่คุณต้องเคยได้ยินชื่อมาก่อน!
5 ผีในเอเชียที่คุณต้องเคยได้ยินชื่อมาก่อน!

5 ผีในเอเชียที่คุณต้องเคยได้ยินชื่อมาก่อน!

ความเชื่อเรื่องผีท้องถิ่นนั้นมักจะมีการปรากฏของผีอยู่มากมาย ในเอเชียเรามีตำนานผีที่มีชื่อเสียงอยู่จำนวนมาก วันนี้ MiXMAYA พาคุณมารู้จักตำนานผีเอเชียทั้ง 5 ที่คุณต้องเคยได้ยินชื่อมาก่อน!

1. เจียงฉี ผีจากเมืองจีน

- ผีดิบจีนหรือเจียงฉีคือผีที่คนไทยรู้จักผ่านเรื่อง "ผีกัดอย่ากัดตอบ" เป็นผีดิบที่สูบกินเลือดเนื้อของมนุษย์ "เจียงฉี" คือศพที่ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นมาจากนักบวชลัทธิเต๋า มีลักษณะพิเศษคือศพที่เเข็งทื่อกระโดดไปมาได้เท่านั้น โดยมากเจียงฉีจะถูกสะกดด้วยยันต์ที่หน้าผากเพื่อให้สงบ รอรับคำสั่ง เเต่หากยันต์ที่สะกดหลุดออกจะทำร้ายคนได้ กล่าวกันว่าการสร้างเจียงฉีเพื่อนำคนตายนั้นกลับบ้านที่อยู่ห่างไกล เเต่เพราะระยะทางที่ไกลมากจึงต้องปลุกศพให้มีชีวิตเพื่อให้เดินทางได้สะดวก เจียงฉีจะกระโดดตามเสียงกระดิ่งของนักบวช ผู้ที่ถูกเจียงกัดจนเสียชีวิตนั้นจะฟื้นกลับมาอีกครั้งเพราะติดเชื้อผีดิบ อย่างไรก็ตามเเม้เจียงฉีจะดูน่ากลัวเเต่ผีดิบเหล่านี้ไม่สามารถอาละวาดได้ในตอนเช้า หากพบเจอเจียงฉีว่ากันว่าต้องกลั้นหายใจเพื่อไม่ให้เจียงฉีสัมผัสถึงพลังชีวิตได้ก็จะปลอดภัย!

2. ปอบ 

- ความเชื่อของไทยสมัยโบราณผู้ที่มีวิชาอาคมเเต่ไม่สามารถรักษาวิชาที่เรียนได้ วิชานั้นจะเข้าตัวจนกลายเป็น "ปอบ"  ปอบนั้นไร้รูปร่างไม่สามารถระบุได้ไม่เหมือนกระหัง หรือกระสือ  เป็นผีที่มีจิตอาฆาต คอยสิงร่างคนเพื่อสูบกินอวัยวะภายใน ระหว่างสิงสู่ก็จะนำร่างคนนั้นไปทำเรื่องไม่ดีสร้างเเต่ความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น เมื่อร่างที่สิงอ่อนเเรงลงจนไม่สามารถสูบกินได้อีกเเล้วปอบจะหาร่างใหม่ในการสิงสู่เเละทิ้งร่างเดิมให้นอนตายไปในสภาวะ "ไหลตาย" ปอบนั้นจึงเหมือนกาฝากที่น่ากลัว ทั้งยังมีวิชาอาคมยากต่อการต่อกรต้องมีครูบาอาจารย์ที่มีวิชาสูงบารมีสูงจึงจะสามารถขับไล่ปอบได้

3. กุมารทอง

- มีเรื่องเล่าว่า เเม่เเละเด็กที่เสียชีวิตระหว่างคลอดหรือการตายท้องกลมนั้นวิญญาณจะมีพลัง คนเล่นอาคมจะนำเด็กที่ตายในครรภ์มาทำพิธีชุบเลี้ยงเป็นลูกไว้คอยรับใช้ ว่ากันว่าจะช่วยให้ทำมาค้าขึ้น คอยเฝ้าดูเเลบ้าน สมัยก่อนจะมีการใช้ศพเด็กจริง ๆ ลงรักปิดทองลงคาถา เเต่เมื่อเวลาผ่านไปกาต่อต้านการทำกุมารทองมากขึ้นเพราะการที่ต้องนำเด็กที่เสียชีวิตมาใช้ทำกุมารทองทำให้เกิดการลักขโมยศพอีกทั้งเป็นความเชื่อส่วนบุคคล จึงมีการเปลี่ยนกรรมวิถีอัญเชิญวิญญาณเด็กเข้ามาสิ่งสู่ในไม้แกะสลักเพื่อเป็นกุมารทองเเทน 

4. กระสือ 

- ความเชื่อเรื่องกระสือนั้นเป็นวัฒนธรรมร่วม ทั้งไทย กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย มีตำนานเกี่ยวกับกระสือเพียงเเต่มีชื่อเรียกเเตกต่างกัน ผีกระสือนั้นตามความเชื่อของไทยคือคนที่มีวิชาอาคมเเล้วเข้าตัวจึงกลายเป็นกระสือ เป็นร่างที่มีเฉพาะหัวเเละตับไตใส่พุงลอยไปมา เครื่องในจะเรืองเเสงเพื่อส่องสว่าง เเต่ยามกลางวันจะเป็นคนปกติเเทบเเยกไม่ออกว่าเป็นกระสือ กระสือนั้นนิยมรับประทานอาหารสดคาว เเม้เเต่อาจม ในอดีตเมื่อมีการคลอดลูกหรือสัตว์คลอดจะต้องนำพุ่มหนามมาล้อมไว้เพื่อไม่ให้กระสือนั้นเข้าถึงคนที่คลอดลูกเนื่องจากกระสือกลัวหนามเกี่ยวไส้ของตน เมื่อกระสือถึงคราวที่จะต้องตายนั้นจะพยายามถ่ายทอดความเป็นกระสือให้แก่ทายาตของตน เชื่อกันว่าสามารถถ่ายทอดด้วยการกินน้ำลายของกระสือ เชื้อกระสือก็จะแพร่เข้าร่างคนที่ได้กินน้ำลาย ความเชื่อเรื่องกระสือสันนิษฐานกันว่ามาจากความเชื่อของประเทศกัมพูชาที่ว่าคนเล่นมนต์ดำเเล้วของเข้าตัวจนกลายเป็นกระสือเเล้วเเพร่เชื้อมายังพื้นที่ใกล้เคียง

5. ผีสาวปากฉีก จากญี่ปุ่น

สาวปากฉีกถูกเล่าในสมัยเฮอัง ความว่า หญิงคนหนึ่งเป็นภริยาซามูไรเเต่แอบคบชู้สู่ชาย เมื่อสามีพบเข้าก็โกรธ จึงสั่งหารเเละยังเอาดาบสับปากนางจนถึงใบหูเพื่อให้เสียโฉม เมื่อเธอตายไปด้วยเเรงอาฆาตที่มีต่อสามีจึงไม่ยอมไปผุดไปเกิด กลับกลายเป็นผีร้ายมาแก้แค้นสามีและหลอกหลอนผู้คนอยู่ทั่วไปที่เดินทางผ่านบริเวณนั้นหลังจากนั้นเรื่องสาวปากฉีกก็หายตามกาลเวลาจนในปี พ.ศ. 2522 สาวปากฉีกกลับมาอาละวาดอีกครั้ง ต่างเล่ากันว่าถ้าเดินทางในยามวิกาลจะมีสาวคนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัยเเล้วถามคนที่เดินผ่านตนว่า ตนเองสวยหรือเปล่า หากไม่ตอบผีสาวจะนำกรรไกรมาตัดปากคนนั้นจนถึงแก่ความตาย ถ้าตอบว่าไม่ก็จะโดนฆ่าตัดทิ้งเป็นสองท่อน หากตอบว่า ใช่ ก็จะถูกทำให้ปากฉีกถึงรูหูเช่นกัน ว่าง่าย ๆ คือยังไงก็ต้องโดนทำร้าย เหยื่อโดยมากนั้นลือว่าเป็นเด็กนักเรียนประถมเสียส่วนใหญ่ จนในปีนั้นเด็กประถมต้องกลับบ้านพร้อมมีครูนำทาง หรือตำรวจพากลับบ้านเพื่อความปลอดภัย

 

 

 

 

 

Comments

entertainment

VDO Update

Merigin

Related Post